From Modeling to Detail Documentation

บทความนี้สำหรับท่านที่ทำงานด้านภูมิสถาปัตย์และทำการออกแบบภูมิทัศน์ และมีความต้องการสร้างงานที่ออกแบบเป็นโมเดล 3 มิติด้วยคอมพิวเตอน์ เพื่อนำเสนองานให้ลูกค้าในรูปแบบ 3 มิติ และสามารถใช้งาน 3 มิติ ที่นำเสนอนั้นมาทำเป็นแบบเพื่อการก่อสร้างได้โดยไม่ต้องไปขึ้นงานใหม่ ในที่นี้ขอเสนอ workflow การทำงานโดยใช้โปรแกรม 3ds max, AutoCAD, Revit และ Showcase มาลองดูวิธีการกันครับ

เริ่มต้นโดยใช้โปรแกรม 3ds max สร้างหินเพื่อนำไปใช้ เริ่มต้นจากสร้าง box การปรับเปลี่ยนรูปทรงให้กลายเป็นหินคราวๆสามารถทำได้ 3 วิธีคือ (1) การใส่ modifier ปรับรูปร่าง หรือ (2) Edit polygon หรือ (3) ใช้ผสมกันตามประสบการณ์

ในที่นี้ตัวอย่างจะใช้วิธี (1) คือการใส่ modifier ปรับรูปร่าง

จากนั้นใส่ material แล้ว export file เป็น format FBX. Material ที่ใส่ใน 3ds max เมื่อ export ออกไป material จะตามไปด้วย ดังนั้นต้องรู้วิธีการปรับใช้ material กับชิ้นงานด้วย 3ds max ให้เสร็จในขั้นตอนนี้เลย ข้อดีคือ ทำครั้งเดียวใช้ได้ในโปรแกรมอื่นด้วย ไม่ต้อง set ซ้ำๆเหมือนในอดีต

ต่อไปใช้โปรแกรม AutoCAD คำสั่ง Import – เปิดไฟล์ FBX

แล้วใช้คำสั่ง Insert เลือกเอาโมเดลที่ import เข้ามาวางใน working space

แล้ว Save เป็น AutoCAD ไฟล์ใน format DWG

ต่อไปใช้โปรแกรม Revit เปิด Project ใหม่

ใช้คำสั่ง Insert > Import CAD – เลือกเปิดไฟล์ DWG ที่ save ไว้จากขั้นตอนที่แล้ว

ไปที่ Project Browser ที่ Elevations เลือกด้านใดก็ได้เพื่อเข้าไปสร้าง ระดับ ในที่นี้ตัวย่างสร้าง 4 ระดับสูงชั้นละ 1500 มม. (1.5 เมตร) ในรูปใช้คำสั่ง Copy และ Rotate ชิ้นงานเพิ่ม (คำสั่งและการใช้งานเหมือน AutoCAD)

ใช้โปรแกรม Revit เพื่อสร้าง Cross sections, Elevations, Detail drawing

ไปที่ Project Browser > Floor Plans ที่ Level 1, Level 2, Level 3, Level 4

       จะได้ floor plan ที่ Revit สร้างรูปแปลนให้จากโมเดล

ไปที่ Project Browser > Elevations ที่ North, South, East, West

       จะได้ Elevation Views ที่ Revit สร้างรูปด้านให้จากโมเดล

สามารถใช้คำสั่ง View > Section ตัด sections ที่ใดก็ได้ตามต้องการ รูป sections จะไปอยู่ที่ Project Browser > Sections

การสร้าง Detail Drawings ก็สามารถสร้างโดยการ drag & drop รูป Plans, elevations, cross sections จาก Project Browser มาใส่ใน drawing ได้เลย (Revit ไม่ให้ใส่ซ้ำ view กัน ทำให้ไม่เกิดการ duplicate ชิ้นงาน)

เรื่อง scale และ text size ใช้ง่ายมากใน Revit ลืมความปวดหัวปวดตัวเรื่อง set scale & text size ไปเลย

ใครที่มาใช้ Revit แล้ว ส่วนใหญ่ไม่กลับไปใช้ AutoCAD อีกเลยถ้าไม่จำเป็นแบบในกรณีแบบนี้

ตัวอย่างทดลองทำต่อโดยใช้ก้อนหินที่ import เข้ามา

แล้ว Render โดยใช้ Revit ซึ่ง Render ได้ง่ายกว่า 3ds max ไม่ต้อง setting มาก เพราะทำงานด้านภูมิสถาปัตย์และทำการออกแบบภูมิทัศน์เป็นงานภายนอกเสียส่วนใหญ่ การ render ก็ใช้ External Light ปรับแค่เวลาที่ต้องการ เปิด shadow ปรับบรรยากาศความมากน้อยของเมฆก็พอ ความละเอียดของภาพก็เลือก ทดลองโดยใช้ Draft ให้แน่ใจก่อน จากนั้นก็ค่อยเลือกความละเอียดที่มากขึ้นตามต้องการ ยิ่งละเอียดก็ยิ่งใช้เวลานาน หรืออาจเลือกใช้ Cloud Rendering สำหรับคนที่มี subscription ก็จะประหยัดเวลาได้มาก

สามารถใช้โปรแกรม Autodesk Showcase เปิดไฟล์ format FBX เพื่อทำการนำเสนอผลงานแบบ Real time Rendering

สามารถเปิดไฟล์ RVT ของ Revit ได้โดยตรงอีกด้วย เพียงแต่ต้องรอการ convert หน่อย ช้าเร็วตามขนาดของงาน
หวังว่า workflow นี้คงเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย